UPDATES

วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ทีมชาติที่คาดว่าน่าจะได้อันดับ 3 และ 4 บอลโลก 2018 ประเทศรัสเซีย


ทีมชาติที่คาดว่าน่าจะได้อันดับ 3 และ 4 บอลโลก 2018 ประเทศรัสเซีย

                การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ประเทศรัสเซียในเวลานี้เหลือเพียง 4 ทีมสุดท้าย หากในแข่งขันในรอบรองชนะเลิศคือผู้ที่เข้าไปรอบตัดเชือกแต่ผู้ที่แพ้ต้องมาแข่งนัดชิงอันดับ 3 สำหรับทีมที่คาดว่าน่าจะไปไม่ถึงรอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้ คือ


            ทีมชาติฝรั่งเศส

เป็นอีกหนึ่งทีมชาติที่มีนักเตะระดับแนวหน้าของวงการลูกหนังรวมอยู่ในทีมจำนวนมาก จึงมีความพร้อมในการเดินหน้าเข้าสู้ด้วยความเร็วของฝีเท้าของนักเตะแต่ละคนที่มีความว่องไว พร้อมสร้างโอกาสในการบุกได้ตลอดเวลา แม้ว่าความเร็วแรงของนักเตะชุดนี้ ที่มีดาวดังจากสโมสรชั้นนำจำนวนมาก แต่การผ่านเข้ามาสู่ในรอบสุดท้ายอาจสะดุดได้ หากต้องออกแรงปะทะกับทีมเบลเยี่ยมที่ได้ชื่อว่าแดนกลางแข็งมากและนักเตะทุกคนเล่นแทนกันได้ แม้ว่าในทีมอาจมีดาวดังประทีมไม่มากเท่ากับทัพตาไก่แต่ระดับฝีเท้าถือว่าไม่ธรรมดา สำหรับจุดอ่อนของทีมตราไก่ที่หลายฝ่ายอาจจะมองว่าผู้จัดการทีมอาจเป็นจุดปัญหาในครั้งนี้ เพราะแนวทางการจัดรูปแบบเกมที่ดูแปลกตาไปบ้าง แต่ผลงานที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการพาทีมชาติฝรั่งเศสผ่านเข้ามาสู่รอบรองชนะเลิศได้ถือว่าไม่ธรรมดา แต่ความเสี่ยงหรือโอกาสสะดุดขาตัวเองล้มมีความเป็นไปได้ สำหรับการเล่นในระดับโลกจำเป็นต้องวางแผนให้รัดกุม หากเลือกคุมทีมแบบอินดี้มากเกินไปคงไม่ได้โชคช่วยแน่นอน


สำหรับคีย์แมนของทีมชาติฝรั่งเศสที่มี อองตวน กรีซมันน์ ในการขับเคลื่อนการทำเกม ซึ่งในเวลานี้พ่วงด้วยอันดับดาวซัลโวที่ 3 เช่นเดียวกับรุ่นน้องในทีมอย่างเจ้าหนู คีเลียน เอ็มบัปเป้ ในเรื่องความพร้อมของนักเตะในทีมที่ไม่มีใครปฎิเสธได้ เมื่อใดที่มีความประมาทเข้ามาอาจทำให้พวกเขาต้องพลาดในรอบการแข่งกับทีมชาติเบลเยี่ยมได้ง่าย ๆ เพราะในรอบบนี้แพ้คือการเข้าไปชิงที่สาม เพราะม้ามืดในปีนี้ที่หลายฝ่ายจับตามองอย่างเบลเยี่ยมที่เอาชนะบราซิลมาได้ เมื่อต้องเจอกับฝรั่งเศสก็ไม่ใช่งานยาก และจุดอ่อนของฝรั่งเศสที่จะสามารถแก้ไขและปรับได้เร็วหรือไม่ หากยังคงใช้งานในแบบเดิม ๆ โอกาสที่จะเข้ามาร่วมชิงอันดับที่สามมีสูงมากเช่นกัน


ทีมชาติโครเอเชีย 

ที่ผ่านเข้ารอบมาได้อย่างเฉียดฉิวและต้องออกแรงมากกว่าชาติอื่น ๆ ในรอบรองชนะเลิศ จากการดวูกจุดโทษถึงสองครั้งในการแข่งทั้งเดนมาร์กและ รัสเซีย และผ่านเข้ารอบมาได้สำเร็จ แต่เมื่องานนี้ต้องเจอกับทีมชาติอังกฤษ แน่นอนว่าไม่ใช่งานง่าย เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เมื่อเทียบนักเตะในทุกตำแหน่งสิงโตคำรามเหนือกว่า จืงมีโอกาสของการเข้ามาสู่รอบชิงอันดับได้สูงกว่า และการเดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศเป็นการสร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนบอลอย่างมากหลังจากที่รอคอยมานาน ถือว่าเป็นการแข่งขันที่มาไกลกว่าที่หลายคนคิด หากจะเรียกว่าเป็นทีมม้ามืดอีกหนึ่งทีมไม่ถือว่าผิด แม้ว่าความโดดเด่นของทีมจะมีแนวรับในแดนกลางที่แข็งแกร่ง ยากเกินกว่าจะเจาะเข้าไปทำประตูได้ แต่ผลงานที่ผ่านมาจากการแข่งถึงสองครั้งหลังทีมชาติโครเอเชียต้องออกแรงโชว์ความแม่นยำและการเซฟลูกในการดวลจุดโทษที่เหนือชั้นมากกว่า จึงทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบมาได้ สำหรับการแข่งขันรอบรองชนะเลิศต้องเจองานหินที่สุดในการพบกับทีมชาติอังกฤษ อาจทำให้พวกเขาต้องสะดุดพ่ายให้กับสิงโตคำรามได้ง่าย ซึ่งการแข่งขันในรอบนี้ถือว่าเข้มงวดกว่าที่ผ่านมา และตำแหน่งผู้เล่นของอังกฤษที่เหนือกว่าในทุกทาง โอกาสที่จะชนะเข้ารอบต่อไปถือว่ายากและพวกเขาต้องเดินทางมาแข่งชิงอันดับ 3 ก็เป็นได้


แม้ว่าคีย์แมนของโครเอเชียจะมี ลูกา โมดริซ , อิวาน เปริซิช , อิวาน ราคิติซ ที่คอยแต่งเกมรับทและสวนกลับได้เร็ว จึงเป็นจุดแข็งของพวกเขา แต่แนวทางการบุกและขึ้นไปทำประตูอาจไม่ได้ร้อนแรงหรือมีความน่ากลัวแต่อย่างใด หากถูกยิงขึ้นนำไปก่อนอาจทำให้การไล่ตีเสมอจะเป็นงานยากสำหรับพวกเขาเพราะตัวยิงประตูไม่เฉียบคมหรือแม่นยำมากพอ ทำให้ต้องเร่งเครื่องบุกหนักมากกว่าเก่าและเป็นจุดเสียเมื่อเทียบกับอีก 4 ทีมที่ผ่านเข้ามา ถือว่าอ่อนกว่าทุกทีมจึงไม่ใช่งานง่ายของการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป เพราะทีมเวิร์คโครเอเชียอาจน้อยกว่าทำให้การจบอันดับในรอบนี้คาดว่าน่าจะอยู่ที่อันดับสี่ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากเมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งในทีมอื่น ๆ  แต่ถึงอย่างไรก็ตาม โครเอเชียก็ถือว่าพาตัวเองให้ผ่านเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายถือว่ามาไกลเกินกว่าที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้และเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของวงการลูกหนังโครเอเชียอย่างมาก  ซึ่งมาจากการนำทีมของ ซแลตโก้ ดาลิช ที่สามารถสร้างความสุขให้กับชาวโครเอเชียได้อย่างมาก ไม่ว่าจะจบอันดับที่เท่าใดก็ตามทุกคนต่างยินดีและถือว่าเป็นเกมที่มาไกลมาก หากไปไม่ถึงฝั่งก็ยังได้ใจแฟนบอลทั้งประเทศ