UPDATES

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ทีมชาติที่ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ บอลโลก 2018 ประเทศรัสเซีย



ทีมชาติที่ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ บอลโลก 2018 ประเทศรัสเซีย

                ในการแข่งขันบอลโลก 2018 ที่เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายและได้ทีมชิงชนะเลิศเที่เรียบร้อยแล้ว  สำหรับทีมที่ผ่านเข้ารอบมาได้คือ ชาติฝรั่งเศสและทีมชาติโครเอเชีย ซึ่งเป็นทีมที่เหนือความคาดหมายของใครหลายคน ทำให้การผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศครั้งสร้างปรากฎการณ์ครั้งสำคัญของวงการลูกหนังอย่างมาก

ทีมชาติฝรั่งเศส

                ทีมชาติฝรั่งเศสที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาจากการเฉือนเอาชนะเบลเยี่ยมมาได้  1-0  ซึ่งเป็นทีมชาติที่มีนักเตะดาวดังประดับทีมจำนวนมาก จึงเป็นทีมที่มีความแข็งแกร่งและทีมเวิร์คอย่างมาก จากฟอร์มการเล่นในเวลานี้ที่มีความกระหายชนะอย่างมาก ทำให้ความมั่นใจของทีมในเวลานี้มีเกินร้อย ด้วยความพร้อมในทุกด้านของทัพตราไก่ที่สามารถบุกเอาชนะคู่แข่งมาได้นับครั้งไม่ถ้วน จากสถิติผลงานในการแข่งขันฟุตบอลโลก ที่ผ่านการคว้าแชมป์โลกในครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1998 หรือเมื่อ 20 ปีก่อน ถือว่าเป็นเวลานานพอสมควร ในชุดที่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ในยุคนั้นที่มีดาวเตะชื่อดังอย่างเช่น ซีเนดีน ซีดาน ,ดิดิเยร์ เดส์ชองส์, เธียร์รี่ อองรี , โลรองต์  บลองก์


สำหรับทัพตราไก่ในยุคนี้ที่ได้ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์  ที่ผันตัวเองเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชาติในครั้งนี้ ที่คาดหวังจะพาเหล่าทัพนักเตะรุ่นน้องคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ให้ได้เหมือนเอง เมื่อมองถึงภาพรวมในเวลานี้ที่เหล่านักเตะทุกตำแหน่งมีความพร้อมและแข็งแกร่งทำให้ไม่เห็นจุดอ่อนแม้แต่น้อย ซึ่งทุกคนที่มีเป้าหมายหลักเช่นเดี่ยวกัน จึงเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่  ซึ่งพวกเขาเหลือการแข่งขันอีกนัดเดียวที่จะชี้ชะตาว่าการเป็นแชมป์โลก 2018 จะตกเป็นของพวกเขาได้หรือไม่ แม้ว่าทีมคู่แข่งในเวลานี้ไม่เคยผ่านการเข้าสู่รอบสุดท้ายมาก่อน แต่ก็นิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะเป็นทีมม้ามืดที่ต้องระวังทางการเล่นให้มากเช่นกัน

ทีมชาติโครเอเชีย

                ทีมชาติโครเอเชียเป็นทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกของการแข่งขันบอลโลก 2018 ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้กับทีมชาติตนเองด้วยการเขี่ยทีมชาติอังกฤษตกรอบรองชนะเลิศมาได้แบบฉิวเฉียดในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 ทำให้พวกเขาต้องมาเจอกับฝรั่งเศส ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทีมเต็งของการลุ้นเป็นแชมป์ สำหรับผลงานที่ผ่านมาถือว่าลุ่ม ๆ ดอน ๆ อย่างมาก แต่ก็สามารถผ่านเข้ามายังนัดชิงได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการดวลลูกจุดโทษถึงสองครั้งและพวกเขาก็ผ่านมาด้วยดี และชนะทัพสิงโตคำรามได้อย่างเหนือชั้นแม้ว่าที่ผ่านมาจะครองบอลน้อยกว่า ถือว่าทีมชาติโครเอเชียที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศมาได้ต้องผ่านศึกหนักค่อนข้างมาก แต่การแข่งในนัดสุดท้ายเพื่อตัดสินว่าใครคือแชมป์โลกครั้งที่ 21 อาจไม่ใช่งานง่าย ทำให้พวกเขาพร้อมตั้งรับจากการบุกของฝรั่งเศสอย่างเต็มที่ จากการผ่านเข้ามาสู่ในรอบสุดท้ายนับเป็นเวลาที่โครเอเชียต่างเฝ้ารอเป็นเวลานานถึง 20 และจุดแข็งของ ตาหมากรุก ที่มีในเวลานี้ ที่มีทั้ง อิวาน ราคาติช , อิวาน เปริซิช , ลูกา โมดริช ที่เป็นสามขุนพลตัวหลักของทีมที่พร้อมจะพาความฝันของชาติให้ถึงฝั่ง



ทั้งนี้โครเอชียเป็นทีมชาติที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นม้ามืดในการแข่งบอลโลกครั้งนี้  เมื่อมองถึงความพร้อมของทีมที่อาจเป็นรองฝรั่งเศสพอสมควร แต่ทุกครั้งที่ผ่านมาพวกเขาได้แสดงให้เห็นแล้วว่าการผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นผลมาจากทีมเวิร์คและความขยันไล่บี้คู่แข่งเพื่อช่วงชิงโอกาสในสนามทำให้สร้างประตูสวย ๆ ได้ไม่ยาก รวมถึงความพร้อมของทีมที่มีความต้องการชัยชนะและต้องการเป็นแชมป์โลกในสมัยแรกของโครเอเชีย
                ดังนั้นเกมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ประเทศรัสเซียครั้งนี้มีเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายเกิดขึ้นหลายอย่าง หากจะมีแชมป์โลกหน้าใหม่อย่างโครเอเชียก็ไม่ถือเป็นเรื่องแปลก หรือฝรั่งเศสจะครองแชมป์เป็นสมัยที่สอง ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้ตลอด เพราะเกมการแข่งขันกีฬาไม่มีอะไรที่แน่นอน อะไรย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ