UPDATES

วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2562

แมนยูเข้ารอบ UCL บุกยิงปารีส 1-3 ได้ AG 3-3 แรชฟอร์ดฮีโร่จุดโทษท้ายเกมส์


แมนยูเข้ารอบ UCL บุกยิงปารีส 1-3 ได้ AG 3-3 แรชฟอร์ดฮีโร่จุดโทษท้ายเกมส์

เรียกว่าดราม่าสุด ๆ เลยก็ว่าได้ หลังจากที่ ปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด บุกไปอัด ปารีส แซงต์ แชร์กแมงคาถิ่นปาร์กเดแปรงซ์ ด้วยสกอร์ 1-3 ซึ่งในนัดแรกผีแดงแพ้คาบ้าน 0-2 แต่นัดนี้ได้สกอร์รวมอะเวย์โกล 3-3 ยิงนอกบ้านได้ 3 ประตู ทำให้ผ่านเข้ารอบไปอย่างมหัศจรรย์
อย่างไรก็ตามเกมส์นี้ต้องยกให้การวางแผนของกุนซือมากความสามารถอย่างโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงผีแดงให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง


เกมส์เริ่มต้นเพียง 2 นาที เจ้าถิ่นส่งลูกพลาด ทำให้โรเมลู ลูกากู ลักบอลไปยิงออกนำตั้งแต่ต้นเกมส์ 0-1 ทำให้สกอร์รวมตามมาเป็น 2-1 จากนั้นอีก 10 นาทีต่อมา เจ้าบ้านตีเสมอได้สำเร็จจาก ฮวน เบอร์นาทในนาทีที่ 12



เกมส์ผ่านมาครึ่งชั่วโมง ปีศาจแดงทำประตูได้เพิ่มจากลูกากูคนเดิม ที่ยิงซ้ำจากลูกที่แรชฟอร์ดยิงไกลแล้วบุฟฟ่อน รับกระฉอกหลุดมือ ทำให้กองหน้าชาวเบลเยี่ยมวิ่งไปซ้ำไม่เหลือ ทำให้แมนยูนำอีกครั้งด้วยสกอร์ 1-2 ทำให้สกอร์ตามมาเป็น 3-2 


เกมส์เริ่มดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ อีก 4 นาทีต่อมา อังเคล ดิมาเรีย โดนใบเหลืองในนาทีที่ 34 และนาทีที่ 36 เอริค ไบยี่ต้องเปลี่ยนตัวออกเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ( หรือเป็นแผนของโซลชาก็ยังไม่แน่ใจ ) ซึ่งผีแดงได้ส่ง ดีโอโก้ ดาโลต์ ลงมาในนาทีที่ 36 เผื่อเล่นริมเส้นด้านขวา จากนั้น ในครึ่งแรกเจ้าบ้านยังไม่สามารถตีประตูเสมอได้ ทำให้ผีแดงนำอยู่ 1-2

เกมส์เข้าสู่ครึ่งหลัง ต่างฝ่ายต่างผลัดกันบุก แต่แมนยูเกือบพลาด หลังจากดิมาเรีย ลักลูกไปยิงได้ แต่กลับล้ำหน้า ทำให้เจ้าบ้านยังคงสกอร์เท่าเดิม สุดท้ายเปลี่ยนตัวเอามูนิเยร์ ลงมาแทนแดร็กซ์เลอร์ที่เจ็บ และปาเรเดส ลงมาแทน เคห์เรอร์ ในนาทีที่ 70 แต่อีก 5 นาทีต่อมา ปาเรเดส โดนใบเหลืองจากการเข้าหนัก

นาทีที่ 80 ปีศาจแดงส่ง ทาฮิธ ชอง ลงมาแทนเปย์เรร่า นาทีที่ 87 ส่งเมสัน กรีนวู้ด ลงมาแทน แอชลี่ย์ ยัง จากนั้น ลุค ชอว์ โดนใบเหลืองในนาทีที่ 90

กรรมการต่อเวลาไป 3 นาที เปเอสเช ส่งคาวานี่ ลงมาแทนอัลเวส แต่ดราม่าท้ายเกมส์ก็เกิดขึ้น หลังจากที่เจ้าบ้านแฮนด์บอล กรรมการขอดูวีเออาร์และเป่าให้เป็นจุดโทษ สุดท้าย แรชฟอร์ด ยิงเข้าไปอย่างไม่เหลือ บุฟฟ่อนหมดสิทธิ์เซฟ แมนยูหนีห่างเป็น 1-3 ด้วยสกอร์รวม 3-3


กรรมการยังทดเวลาต่อไปอีก 8 นาทีกว่า และเจ้าบ้านพยายามบุกคืน แต่ก็ไม่ทันเวลา กรรมการเป่าจบเกมส์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเข้ารอบอย่างหวุดหวิด ด้วยสกอร์ชัยของแรชฟอร์ด ลูกสุดท้าย



ส่วนอีก 1 คู่ ปอร์โต้ VS โรม่า เสมอกันด้วยสกอร์รวม 3-3 ต่อเวลา แต่ปอร์โต้ ก็มายิงได้ในช่วงต่อเวลา 15 นาทีหลัง ด้วยการทำประตูของ อเล็กซ์ เทลเลส ทำให้ปอร์โต้ ผ่านเข้ารอบ UCL ไปพร้อมปีศาจแดงทันที