UPDATES

วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2561

มาริโอ เนื้อหอม พ่วงท้ายด้วยสิทธิ์ซื้อขาดจาก ขุนค้อน

มาริโอ เนื้อหอม พ่วงท้ายด้วยสิทธิ์ซื้อขาดจาก ขุนค้อน 

                เจา มาริโอ ที่กำลังเนื้อหอม ตกเป็นข่าวของการต้องการตัวเข้ามาร่วมทีมกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เป็นสโมสรชื่อดังในพรีเมียร์ลีก โดยคาดหวังต้องการดึงตัวมาแบบยืมตัวนานเป็นเวลา 6 เดือน  ในราคา 1.5 ล้านยูโร ที่พร้อมด้วยสิทธิ์การซื้อขาดสูงถึง 40 ล้านยูโร หลังจากที่โชว์ฟอร์มออกเก่งมาได้อย่างน่าประทับใจ


                ขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ให้ความสนใจและยื่นข้อเสนอการยืมตัวนักเตะชาวโปรตุกีส เจา มาริโอ กองกลางแห่ง อินเตอร์มิลาน ซึ่งเป็นสโมสรจากศึกกัลโช่ เซเรีย อา  ที่ขุนค้อนพร้อมที่จะทุ่มเงินมากถึง 1.5 ล้านยูโร ที่พร้อมให้สิทธิ์ในการขายขาดในช่วงซีซั่นนี้ด้วย สำหรับนักเตะกองกลางรายนี้ ได้ย้ายมาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในราคา 40 ล้านยูโร หรือประมาณ 1,600 บาท แต่น่าเสียดายที่ มาริโอ ไม่สามารถโชว์ฟอร์มออกมาได้ดีสักเท่าไหร่ ซึ่งเขานั้นได้ลงเล่นให้กับทีมได้เพียงแค่ 14 นัดเท่านั้น


                สื่อกีฬาชื่อดังจาก อิตาลี่ สกาย สปอร์ต อิตาเลีย ที่ได้ออกมาเผยว่า มาริโอ นักเตะวัย  24 ปี รายนี้ ได้มีการปฏิเสธที่จะไปค้าแข้งในลอนดอน สเตเดี้ยม แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปออกมาอย่างจริงจังสำหรับการยื่นขอเสนอนี้ ซึ่งถ้าเป็นไปได้ก็เท่ากับว่า งูใหญ่ก็อาจจะพอที่จะสามารถถอนเงินคืนออกมาได้บ้าง หากมีการตัดสินใจที่จะปล่อยตัวออกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทบทวนให้ดีก่อนที่ตลาดจะปิดตัวลงซึ่งเหลือเพียงอีกไม่กี่วันเท่านั้น


นอกจากนี้ มาริโอ ยังได้ตกเป็นข่าวของการต้องการตัวจากทีมใหญ่ ๆ หลาย ๆ ทีมจากพรีเมียร์ลีก ที่มีความต้องการเขาให้เข้ามาร่วมทีม เช่น ปีศาจแดงที่ต้องการตัวเขาให้มาเป็นตัวแทนอย่าง ไมเคิล คาร์ริค  ที่เริ่มมีอายุมาก จึงทำให้กุนซืออย่าง มูรินโญ่ต้องการตัวมาริโอ เช่นกัน


สำหรับค่าตัวของ มาริโอ ก็ต้องยอมรับว่าราคานั้นค่อนข้างสูงมากถึง 40 ล้านยูโร ซึ่งถ้าใครมีเงินทุนที่หนาและต้องการตัวเขาจริง ๆ ก็อาจจะต้องทุบกระปุกตัวเองค่อนข้างมาก พอสมควรกับการคว้าตัวเขามาเล่นให้กับทีม แต่ก็ต้องรอดูว่าใครที่จะสามารถคว้าตัว มาริโอมาได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องรอดูกันต่อไป เพราะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก็พร้อมยืมตัวและพ่วงด้วยสิทธิ์ของการซื้อขายขาดของนักเตะวัย 24  ปี รายนี้  สำหรับการเจรจาในครั้งนี้ก็ต้องรอดูว่าอินเตอร์ มิลาน จะยอมใจอ่อนเพื่อต้องการถอนทุนคืนหรือไม่ในครั้งนี้